เปิดประเด็นบาร์เซโลน่ากับแชมป์ ลา ลีกา สเปน

                ท่ามกลางความยินดีของการคว้าแชมป์ ลา ลีกา ซีซั่น 2018-19 กลับมีข้อกังขาว่าทำไมแชมป์ลีก 2 ฤดูกาลซ้อน ถึงแลดูล้มเหลวไม่เป็นท่าทั้งที่น่าจะดีกว่าหรือเท่าเดิม โดยเฉพาะเมื่ออยู่ภายใต้การกุมบังเหียนของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้

                หลังจากปิดม่าน ลา ลีกา ด้วยการคว้าถ้วยมาครอง ดูเหมือนว่าเหล่าแฟนบอลบาร์เซโลน่าจะไม่ค่อยพอใจกับผลงานของทีมรักที่ทำได้ในฤดูกาลนี้ แม้บิ๊กบอสบาร์ซ่าจะออกมาป้องกุนซือของตนไปก่อนหน้านี้ แต่ความพ่ายแพ้จากการตกรอบรองชนะเลิศในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รวมไปถึงการ บาเลนเซีย เฉือน 1-2 ในศึกชิงดำ โกปา เดล เรย์ ทั้งที่ฤดูกาลก่อนหน้าพวกเขาสามารถทำผลงานทุกรายได้ได้อย่างดีเยี่ยม

                ด้วยเหตุนี้หลายคนจึงชี้เป้าไปที่ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ก่อนใครเพื่อนว่าการวางหมากของเขาทำให้ฤดูการนี้ทีมไปได้แค่การเป็นแชมป์ลีก กับสแปนิช ซูเปอร์คัพ เพียงสองรายการ แต่ถ้ามองลึกลงไปจะเห็นได้ว่ามีอะไรมากกว่านี้อย่างที่ท่านประธานสโมสรได้กล่าวไว้

                นิสัยส่วนตัวของกุนซือ คือประเด็นหลักที่จะส่งผลต่อรูปแบบการเล่นของนักเตะ บางคนอาจชอบเสี่ยง บางคนชอบความแน่นอน ซึ่งบัลเบร์เด้ก็เป็นอย่างหลังเสียมากกว่า และความเพลย์เซฟของเขามันก็ดูขัดกับฟอร์มเดิมของบาร์เซโลน่าอยู่ไม่น้อย แต่เพราะสโมสรไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยงจึงได้เลือกดึงเขามาคุมทีม โดยหวังว่าทีมจะสามารถทำผลงานได้ดีกว่าเดิม อย่างไรก็ตามมีหลายนัดที่แผนการเล่นแบบเพลย์เซฟทำให้เขาพลาดที่จะคว้าชัยมาให้กับทีมได้อย่างที่ควรจะเป็น

                ความเปราะบางของแผงหลังในฤดูกาลนี้เป็นอีกเรื่องที่ต้องใส่ใจ เพราะในฤดูกาลที่แล้วพวกเขาเสียประตูไปเพียงแค่ 29 ลูกซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับฤดูกาลนี้ที่เสียไปถึง 36 ลูก และนี่คือสิ่งที่ทีมมองกว่าการได้ตัว มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์ จาก อาแจ็กซ์ มาเสริมทัพจะทำให้ปิดจุดอ่อนตรงนี้ได้

                ขณะที่แนวรุกยังคงเป็น 3 หอกหลัก ประกอบด้วย ราคิติช, วิดัล และคูตินโญ่ ที่คอยเป็นตัวข่มขวัญคู่ต่อสู้ แล้วยังมี อาตูร์, เดมเบเล่ และมัลคอม แข้งหนุ่มแรงดีเอาไว้เติม ทว่าประตูชัยส่วนใหญ่ได้มาจากการแอสซิสต์ของ เมสซี่ และ อัลบา ส่วนแนวรุกที่เอ่ยมาก่อนหน้ามีเพียงแค่ วิดัล ที่สามารถทำแอสซิสต์ได้เพียงแค่ 7 หน และนี่คือสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่าแนวรุกของบาร์ซ่ายังไม่คมพอที่จะทะลวงประตูฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะคูตินโญ่ที่ดูเหมือนจะรักษาฟอร์มให้คงเส้นคงวาไม่ได้ และกลายเป็นข่าวเรื่องย้ายทีมเสียเอง