แอสตัน วิลล่า ผงาดไม่ออกเหตุใช้แข้งเด็กรับมือ ลิเวอร์พูล หลังขุมกำลังหลักโดนพิษโควิด-19 เล่นงานอ่วม นัดนี้ถือว่า “หงส์แดง” ได้ล้างตา “สิงห์ผงาด” ไปด้วยสกอร์ 4-1 ลิ่วเข้ารอบต่อไปได้ไม่ยากในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 3 เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา
ก่อนเปิดศึก เอฟเอ คัพ นัดล้างตา เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ “หงส์แดง” ก็ตัดสินใจเปลี่ยน 6 แข้งจากนัดล่าสุด โดยเลือกใช้ เนโก วิลเลี่ยมส์ ประจำการแบ็กขวาเช่นเดียวกับ รีส วิลเลี่ยมส์ ที่เข้ามายืนเซนเตอร์แบ็ก ส่วน เคอร์ติส โจนส์ จะคุมแนวรุกร่วมกับ ทาคุมิ มินามิโนะ และพักแข้ง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ให้นั่งสำรอง
ทางด้าน แอสตัน วิลล่า ถือว่าเจอวิกฤตไม่น้อยเพราะโควิด-19 เข้าเล่นงานแข้งหลักมากถึง 10 คน จำเป็นต้องดึงชุดยู-23 7 คน มาทำงานร่วมกับชุดยู-18 อีก 4 คน จัดว่านัดนี้มีแต่แข้งเด็กเกือบยกทีม
เขี่ยบอลได้แค่ 4 นาที “เดอะค็อป” ก็ได้เฮก่อนเมื่อ เคอร์ติส โจนส์ ครอสเข้าหัว ซาดิโอ มาเน่ ก่อนจะโขกเน้น ๆ เบียดเสาเข้าไปได้ไม่ยาก ลิเวอร์พูล ออกนำ 1-0
นาที 10 เป็นทีของ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ที่รับลูกโด่งจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่เปิดตัดหลังแข้งเจ้าบ้านมาให้ แม้ว่าเจ้าตัวพยายามแปบอลใส่เสาไกล แต่น้ำหนักบอลไม่ได้ทำให้หลุดเสาออกไปเสียก่อน
นาที 21 ปีกหงส์เลือดเซเนกัลแตะให้ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ที่ขึ้นมาเติมแล้วหวดหน้ากรอบเขตโทษ ทว่าก็ยังออกหลังไปอีกแบบหวุดหวิด
นาที 23 เจ้าบ้านพอจะมีช่องให้ตอบโต้กันบ้างโดย ลู แบร์รี่ ได้ทีเปิดสุดริมเส้นเข้ามาในเขตโทษหวังให้เพื่อนรับช่วงต่อ แต่ก็ไม่พ้น เจมส์ มิลเนอร์ ที่ดักเคลียร์ไว้ได้
สามนาทีต่อมา จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม เทกตัวโขกสวย ๆ แต่ก็ยังเหินคานออกไปอีก ชวดทำประตูเป็นหนที่สามในเกมนี้
นาที 29 “สิงห์ผงาด” เกือบต้องเสียประตูเพิ่มจากการเติมเกมของ เจมส์ มิลเนอร์ ที่ลากสุดริมเส้นแล้วกดเน้น ๆ ให้บังโมขึ้นโหม่งไม่เต็มใบลอยไปติดมือ อากอส โอโนดี้
นาที 32 แข้งอียิปต์พยายามตัดเข้ากรอบเขตโทษก่อนจะดีดคืนให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ตั้งป้อมซัดโด่งจนเข้ามือนายด่านเจ้าถิ่นแทน
นาที 35 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดึงเดี่ยวกรอบเขตโทษก่อนจะโยกหลอกแข้งสิงห์เล็กน้อยแล้วกดเลียด ทว่า อากอส โอโนดี้ ก็ยังทำหน้าที่จอมเหนียวไว้ได้อยู่
ช่วงท้ายเกมนาที 41 คัมลัม โรว์ เข้าตัดบอลจากแข้ง “หงส์แดง” มาจ่ายให้ รีห์ส วิลเลียมส์ ต่อให้ ลู แบร์รี่ ที่เร่งสปีดเข้ามาแปสวนตัว ควีวิน เคลเฮอร์ เข้าไปประตูไป ตีเสมอทันที 1-1
นาที 45+1 ลิเวอร์พูล ยังคงกดดันอย่างหนักหวังเพิ่มประตูให้ได้ในจังหวะ มิลเนอร์ เปิดมุมยัดเข้าเขตโทษแต่ก็โดนเจ้าบ้านเคลียร์ออกไปเข้าทาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ปรี่เข้ามาตะบันแต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้
จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล เสมอ แอสตัน วิลล่า 1-1
ต่อกันในช่วงครึ่งหลัง คล็อปป์ ได้ส่ง ติอาโก้ อัลกันตาร่า ไปแทน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
นาที 49 ทาคุมิ มินามิโนะ ได้โอกาสลั่นโป้งกลางกรอบเขตโทษแต่ โดมินิค เรวาน ก็เข้ามาช่วยต้นสังกัดไว้ได้ทัน
รูปเกมยังคงเป็น “หงส์แดง” ที่คอยกดดันวิลล่าจนกระทั่งนาที 61 ก็บวกสกอร์ได้สำเร็จจากทำเกมของ เนโก้ วิลเลี่ยมส์ ที่จ่ายออกขวาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก่อนจะพาเข้าเขตโทษให้ ทาคุมิ มินามิโนะ จ่ายออกหลังให้ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม แปเสียบโคนเสา ลิเวอร์พูล นำอีกครั้ง 2-1
เพียงแค่สองนาทีแข้งของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็คึกไม่เลิก โดยคราวนี้เป็น ติอาโก้ ทีจ่ายให้ ชากิรี่ ชิพกลางกรอบเขตโทษและก็เป็น ซาดิโอ มาเน่ อีกครั้งที่ขึ้นขวิดข้ามมือนายด่าน “สิงห์ผงาด” เสียบใต้คานเข้าประตูไป ลิเวอร์พูล ทิ้งห่าง 3-1
นาที 65 สกอร์ฝั่งทีมเยือนยังคงไหลเป็นน้ำด้วยจังหวะที่ เชอร์ดาน ชากิรี่ จ่ายไปที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก่อนจะหมุนตัวหวดซ้ายในกรอบเขตโทษ เล่นเอา อากอส โอโนดี้ หมดหนทางเซฟ “หงส์แดง” ขยับออกไป 4-1
ได้ประตูกันมาเยอะแล้วนาที 74 กุนซือเลือดด๊อยท์ซก็ตัดสินใจพักแข้งสองแนวรุกคู่ใจอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และซาดิโอ มาเน่ โดยให้ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และดิว็อค โอริกี้ ลงมาเล่นแทนตามลำดับ
นาที 84 โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ได้จังหวะตั้งป้อมฝั่งซ้ายในเขตโทษ แต่เจ้าตัวกดหลุดไปเข้าข้างตาข่าย ทำเอาเจ้าตัวถึงกับหัวเสีย ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ลิเวอร์พูล ชนะ แอสตัน วิลล่า 4-1
เลขบัญชี | ชื่อผู้รับ |
4331635857 | SCB บริพัตร เจิมพันนิตย์. |
ฟรีค่าทำเนียมทุกธนาคาร !
ฝากขั้นต่ำ 50 บาท ขึ้นไปเท่านั้น
ห้ามโอนเงินในช่วงเวลา 23:00-23:59 น.