ลิเวอร์พูล ดับฝัน เชลซี ศึกชิงดำ ซูเปอร์คัพ

ลิเวอร์พูล ดวลเดือด เชลซี ในนัดชิงดำศึก ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ แบบไม่มีใครยอมใคร จนต้องใช้จุดโทษหาแชมป์เพียงหนึ่งเดียว หลังเสมอกัน 2-2 ปิดม่านด้วยชัยชนะของ หงส์แดง 5-4 คว้าถ้วยใบที่ 4 ไปครอง

เปิดเกมชิงชัยรายการแรกของซีซั่น หงส์แดง ก็รีบทะยานขึ้นไปตั้งแต่นาทีที่ 4 ในจังหวะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ครอสบอลมาให้ ซาดิโอ มาเน่ ตีลังกาหวดบอลไปติดแขน อันเดรียส คริสเตนเซ่น แต่ผู้ตัดสินก็ไม่ได้ให้เป็นจุดโทษตามคำร้องของแข้งหงส์

นาที 16 สาวกเดอะ ค็อปเกือบได้เฮ เมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเดี่ยวขึ้นไปซัดแบบเน้น ๆ แต่ เกปา เองก็ไม่ยอมให้บอลผ่านมือไปง่าย ๆ

นาที 22 ฝั่งสิงห์บลูได้ทีไล่ขย้ำหงส์กันบ้าง เมื่อ เปโดร สามารถฉกบอลมาได้แล้วซัดไปติดคาน หวิดพังประตูสำเร็จ

ในที่สุดสิงโตน้ำเงินครามก็สามารถพังประตูได้สำเร็จในนาที 36 เมื่อ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ลากบอลจากกลางขึ้นมาไหลไปที่ คริสเตียน พูลิซิช ก่อนจะพาบอลหนีด่านหลังแล้วจ่ายให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ได้ส่งบอลไปที่ก้นตาข่ายสำเร็จ ขึ้นนำทันที 1-0

จบครึ่งแรก เชลซี นำ ลิเวอร์พูล 1-0

ต่อกันที่ครึ่งหลังทางฝั่งลิเวอร์พูลมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยโดยส่ง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ มาทำหน้าที่แทน อเล็กซ์ อ็อกซ็เลด-แชมเบอร์เลน

นาที 48 ฟีร์มิโน่ ก็เริ่มข่มขวัญอีกฝ่ายด้วยการหลุดเข้าไปดีดบอลที่รับมาจาก ฟาบินโญ่ ไปให้ ซาดิโอ มาเน่ ในจังหวะแรก เกปา ยังกันไว้ได้ แต่พอโดนตามเข้าไปซ้ำทำให้ลิเวอร์พูลตามทัน 1-1

นาที 51 ลูกทีมของ คล็อปป์ เกือบพังประตูได้อีกครั้งเมื่อ มาเน่ ครอสบอลให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ยิงจากระยะนอกกรอบ ซึ่งเกปาเองก็เสียจังหวะแต่ก็สามารถรับบอลไว้ได้ทัน

นาที 64 ฝั่ง ลิเวอร์พูล เปลี่ยนตัวอีกครั้งโดยเรียก เจมส์ มิลเนอร์ กลับไปแล้วให้ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม มาแทน ส่วนฝั่ง เชลซี ก็ส่ง เมสัน เมาท์ กับแทมมี่ อับราฮัม มาแทน โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ กับคริสเตียน พูลิซิช

นาที 75 บังโม ขึ้นมาซัดเต็มข้อทว่าบอลติดเต็มมือ เกปา กระดอนไปให้ ฟาน ไดค์ เข้าซ้ำแต่ ผู้เฝ้าประตูสิงห์บลูก็ยังไวกว่ากันบอลพุ่งไปชนเสา สมราคาค่าตัวแพงที่สุดในโลก

ช่วงเวลาที่เหลือจนจบเกมไม่มีใครยอมใคร เสมอกันไป 1-1 จำต้องต่อเวลาอีก 30 นาทีเพื่อหาเจ้าของถ้วยใบโต

นาที 95 สาวกเดอะ ค็อป เฮลั่นสนามเมื่อ ฟีร์มีโน่ ลากบอลจากซ้ายหลุดเข้าไปถึงเส้นหลังก่อนจะหักให้ มาเน่ ที่รอกลางเข้ามาแปเสียบสามเหลี่ยม ไร้หนทางให้ เกปา ได้ปัดป้อง ขยับขึ้นมา 2-1

เพียงแค่ 3 นาทีต่อไป ฝั่งเชลซีก็ได้เฮกันบ้าง จากการเตะจุดโทษของ จอร์จินโญ่ ไล่ตีเสมอ 2-2 ก่อนจบ 15 นาทีแรกของช่วงต่อเวลา

ต่อกัน 15 นาทีหลังทั้งสองฝ่ายก็ยังแลกกันอย่างดุเดือด แต่นายด่านทั้งสองก็ไม่ยอมให้บอลผ่านมือไปได้ จบด้วยเสมอกัน 2-2 ต้องใช้การดวลจุดโทษมาชี้ชะตา กลายเป็นว่าฝั่ง ลิเวอร์พูล ยิงเข้าเป้ามากกว่า 5-4 คว้าถ้วย ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ไปครองเป็นสมัยที่ 4 และเป็นการประเดิมถ้วยใบแรกของฤดูกาล