แมนยูล่าโซเซียดาด จ้องสองตุงจบแชมป์กลุ่มยูโรปา

                แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกมนี้ต้องชนะสองลูกเท่านั้นเพื่อให้ได้เฮดทูเฮดที่ดีกว่าถึงจะสามารถจบรอบในฐานะแชมป์กลุ่มได้ วางใจ โรนัลโด้ ผนึกกำลัง แรชฟอร์ด นำซัด เรอัล โซเซียดาด ที่ไม่ว่าจะเสมอหรือแพ้ลูกเดียวก็รั้งหัวตารางเอาไว้ได้ ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี นัดสุดท้าย คืนวันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายนนี้ เวลา 00.45 น.

อีมานอล อัลกวาซิล เทรนเนอร์ของ เรอัล โซเซียดาด ล่าสุดเกมลีกพาทีมพ่ายให้กับ เรอัล เบติส 0-2 ส่วนรายการนี้บุกไปทุบ โอโมเนีย 2-0 เก็บชัยมา 5 นัดติด เกมสุดท้ายนี้แค่แพ้ไม่เกินสองลูกก็จบแชมป์กลุ่มได้ทันที

ความพร้อมเกมนี้ยังคงเต็มไปด้วยปัญหาแข้งเจ็บ ไม่ว่าจะเป็น ดาบิด ซิลบา, มิเกล โอยาร์ซาบาล, อูมาร์ ซาดิก, ไอเอน มูนญอซ, อเล็กซ์ โซล่า,อันเดร์ บาร์เรเน็ตเชีย, มาร์ติน เมร์เกลานซ์ และ โมฮาเหม็ด-อาลี โช ล่าสุดเพิ่ม อเล้กซานเดอร์ ซอร์ล็อธ เข้าไปอีกคน

ในรายของ ทาเกะฟุสะ คูโบะ ที่เจ็บไหล่ก่อนหน้านี้ คาดว่าน่าจะลงสนามได้ แนวรุกยังคงวางใจ การ์ลอส เฟร์นานเดซ เช่นเคย

ด้วยระบบ 4-5-1 อเล็กซ์ เรมีโร่ จะยืนเฝ้าเสา อาริตซ์ เอลุสตอนโด้, อิกอร์ ซูเบลเดีย, จอน ปาเชโก้ และ ดีเอโก้ รีโก้ ประจำการแนวรับ แผงกลางให้ อันเดร์ กวยบาร่า ประสานงานกับ มาร์ติน ซูบีเมนดี้ และ มิเกล เมรีโน่ส่วน ทาเกะฟุสะ คูโบะ จะวิ่งริมเส้นขวา อีกฝั่งให้ โรเบิร์ต นาบาร์โร่ หน้าเป้าเป็นของ การ์ลอส เฟร์นานเดซ

เอริค เทน ฮาก กุนซือ “ปีศาจแดง” เพิ่งจะเปิดโรงละครแห่งความฝันแย่งแต้ม “ขุนค้อน” เวสต์แฮม 1-0 ในเกมลีกล่าสุด ส่วนศึกยูโรปาก็ทุบ เชริฟท์ 3-0 ถึงอย่างนั้นก็ต้องเอาชนะให้ได้มากกว่า 2 ลูกในเกมนี้

สภาพทีมยังคงไม่สามารถใช้งาน อันโตนี่ ที่เจ็บได้ ส่วน อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล แม้จะกลับมาซ้อมไหวแต่ก็ยังไม่ฟิตพร้อมช่วยทีม รวมถึง เจดอน ซานโช่ ที่ป่วยด้วย เหลือแค่ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่น่าจะกลับมามีชื่อตัวจริงร่วมกับบรรดาแกนหลักอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, คริสเตียน เอริคเซ่น, กาเซมีโร่, ลิซานโดร มาร์ติเนซ และ ดาบิด เด เคอา

ในระบบ 4-2-3-1 ดาบิด เด เคอา ยังคงเฝ้าเสาเอาไว้ ปราการหลังวางใจ  ดิโอโก้ ดาโลต์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลิซานโดร มาร์ติเนซ และ ไทเรลล์ มาลาเซีย ช่วยกันคุมหลังบ้าน กลางสนามมี กาเซมีโร่ คุมเกมร่วมกับ คริสเตียน เอริคเซ่น แนวรุกยังคงเน้น เจดอน ซานโช่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ มาร์คัส แรชฟอร์ด เช่นเคย