หญิงชราฆ่าไม่ตาย แฮร์ธ่ายัดพ่ายลิเวอร์พูล เกมกระชับมิตร

แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ไม่ยอมสิ้นฤทธิ์ กระหน่ำยิง ลิเวอร์พูล จนยัดเยียดความปราชัยได้สำเร็จในช่วงท้ายเกม จบกันด้วยสกอร์ 4-3 ถือเป็นการพ่ายนัดแรกตลอดช่วงอุ่นเครื่อง ในศึกฟุตบอลกระชับมิตรสโมสร เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา

หลังจากเชือด ไมนซ์ ในเกมอุ่นเกือกกันไปแล้ว นายใหญ่ “หงส์แดง” เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ได้ตัว เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ มานั่งสำรองเสียทีหลังจากพักยาวตั้งแต่ยังไม่จบซีซั่น แนวรุกปรับใช้ มินามิโนะ ที่ถูก “นักบุญแดนใต้” ยืมตัวไป กลับมาผนึกกำลังกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ่ มาเน่ ช่วยกันล่าแต้ม “หญิงชรา” แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ที่ฟอร์มร้อนแรงไม่สมชื่อ แถมยังได้อดีตแข้งตัวเก๋าอย่าง เควิน-พรินซ์ บัวเต็ง กลับมาร่วมทีมในรอบ 14 ปี อีกด้วย

เปิดเกมมากว่าจะทักกันได้ก็ปาเข้าไปถึงนาที 11 เมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วางบอลเข้ามาให้ อิบราฮิม่า โกนาเต้ โขกชงในเขตโทษและเป็น ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ที่วอลเลย์นอกกรอบจนบอลโด่งออกหลังไม่ต้องได้ลุ้น

นาที 14 ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ พาบอลมาถึงหน้ากรอบเขตโทษก่อนจะกดไปให้แข้งอียิปต์โยกหลอกแนวรับเจ้าบ้าน ทว่าจังหวะที่ลั่นไกนั้น อเล็กซานเดอร์ ชโวโลว์ ที่เฝ้าเสายังเข้ามาปัดทิ้งได้ทัน

สองนาทีต่อมา บังโม ตักเข้าเขตโทษระยะ 6 หลา ให้ ซาดิโอ มาเน่ ขึ้นโขกกดพื้น แต่โดนธงล้ำหน้ายกใส่ในจังหวะที่นายด่านเจ้าบ้านเทกตัวเซฟไว้ได้

นาที 21 เป็น “หญิงชรา” ที่ออกตัวไปก่อนโดย มาร์วิน แพล็ทเทนฮาร์ดท์ ที่เปิดฟรีคิก 20 หลา และเป็น ซานติอาโก้ อัสซาซิบาร์ ที่เร่งฝีเท้าเข้ามาซัดสวนตัว ควีวิน เคลเลเฮอร์ เข้าประตูไป แฮร์ธ่า นำ 1-0

สิบนาทีต่อมา โดดี ลูเคบากิโอ ได้จังหวะแทงเข้าเขตโทษให้ ซูอัต แซร์ดาร์ พาบอลไปหวดเสยเพดานประตู ทำให้ตอนนี้ “หญิงชรา” หนีห่าง 2-0

นาที 37 ลิเวอร์พูล สามารถตีไข่แตกได้สำเร็จเมื่อ ซาดิโอ มาเน่ กดจังหวะแรกไปติดแผงหลัง แฮร์ธ่า ก่อนแข้งเซเนกัลจะเข้าซ้ำดาบสอง ไล่ตาม 1-2

นาที 43 นาบี เกอิต้า จ่ายไปที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่วิ่งเข้ามาตอกส้นเลยไปเข้าทาง ทาคุมิ มินามิโนะ เข้ามาแปผ่านมือนายด่าน “หญิงชรา” เข้าประตูไป

จบครึ่งแรก แฮร์ธ่า เบอร์ลิน เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2

สลับฝั่งกันได้แค่ 2 นาที ซาดิโอ มาเน่ ก็เล่นเร็วเข้าไปเบียดกองหลังอีกฝ่ายก่อนลั่นไกใส่เต็มแรง แต่ว่า อเล็กซานเดอร์ ชโวโลว์ ก็ทุบทิ้งแบบไม่ไยดีเช่นกัน

นาที 49 ซาดิโอ มาเน่ ตบย้อยไปที่ เจมส์  มิลเนอร์ ก่อนจะตักเบา ๆ เข้าหัว อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน เหินคานออกไป

นาที 55 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดฟรีคิกเข้ามา ก่อนที่แข้งเซเนกัลจะเข้าโขกกลางเขตโทษ แต่ว่านายด่านแฮร์ธ่าก็ยังคงเหนียวอยู่

นาที 65 อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ตอกส้นให้ ดีโอโก้ โชต้า ตักเข้าไปให้ ไคเด้ กอร์ดอน โขกข้ามคานไปอีกคน

นาทีต่อมากลายเป็นว่า “หญิงชรา” ขึ้นนำอีกครั้ง 3-2 โดย โดดี ลูเคบากิโอ ที่เปิดริมเส้นข้ามแข้ง “หงส์แดง” ไปให้ สเตฟาน โยเวติช โขกซุกตาข่าย

นาที 69 เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ลงนามเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน แทนที่ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ที่อุ่นแข้งไปก่อนแล้ว

ทว่าสิบนาทีสุดท้าย สเตฟาน โยเวติช ก็มาปล่อยของด้วยการแตะหลบ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ เข้าไปซัดประตูชัยให้ต้นสังกัด “หญิงชรา” ทิ้งห่าง 4/2

สองนาทีก่อนจบเกม เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ เทคตัวโขกติดเซฟนายด่านมาเข้าทางปืน อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ลั่นโป้ง เข้าประตูไป

จบเกม แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ชนะ ลิเวอร์พูล 3-4