สเปอร์ส ซัดโหดกดไม่เลี้ยงยำ แมนยู เละคารัง

                “ปีศาจแดง” ถึงกับนรกแตกโดนคู่หูสุดคลั่ง ซน-เคน เล่นให้คนละสองเม็ด ก่อนจะเผด็จศึกไล่ทุบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พ่าย สเปอร์ส 1-6 ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา

                หลังจากไล่หักปีก “นกนางนวล” ไบร์ทตัน 3-0 ในศึกคาราบาว คัพ จนลิ่ว 8 ทีมสุดท้ายไปได้ แต่ว่าเกมนี้นายใหญ่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็ชวดใช้ ฟิล โจนส์ และอักเซล ตวนเซเบ้ ที่ยังไม่หายเจ็บ แต่ก็ยังมีแข้งหลักเจ้าเก่าเข้าประจำการอยู่ นำทีมโดย แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กัปตันทีมที่จะกลับมาลงศึกกันบ้านคู่กับ เอริก ไบยี่

                ส่วนเกมกลางยังวาง ปอล ป๊อกบา และเนมานย่า มาติช ช่วยกันคุมเกม ให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส เป็นตัวนำเกมรุกมี เมสัน กรีนวูด และมาร์คัส แรชฟอร์ด อยู่ช่วยริมเส้น เล่นหน้าเป้าเป็นงานของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ส่วน ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ต้องรอโอกาสได้เป็นตัวจริงต่อไป

                ทางด้าน “ไก่เดือยทอง” ของ โชเซ่ มูรินโย่ ที่นำทีมมาเยือนถิ่นเก่าล่าสุดลูกทีมของเขาก็งัดฟอร์มโหดกดไม่ยั้ง มัคคาบี้ ไฮฟา 7-2 ในศึกยูโรปา ลีก รอบเพลย์ออฟ

                สำหรับศึกนี้เรียกได้ว่าฟิตสุด ๆ ไม่มีปัญหานักเตะทั้งเจ็บทั้งแบน ทำให้ น้ามู สามารถจัดทัพได้แบบเต็มอัตราศึก เหลือเพียงแค่ แกเร็ธ เบล ที่ต้องฟิตเพิ่ม แผงกลางมี ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก, มุสซ่า ซิสโซโก้ และ ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ คอยประจำการ ส่วนแนวหน้ายังคงใช้ เอริก ลาเมล่า, แฮร์รี่ เคน  และซน ฮึง-มิน

                เปิดเกมได้แค่ 30 วินาที แฟนผีก็เฮลั่นเมื่อ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ไปโดน ดาวินซอน ซานเชซ เข้าหลังในกรอบเขตโทษ จน แอนโนนี่ เทย์เลอร์ ตัดสินใจให้จุดโทษแก่ “ปีศาจแดง” โดยมี บรูโน่ แฟร์นันด์ส จัดการสังหารและก็ไม่พลาดเป้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกนำ 1-0 ในนาทีที่ 2

                ทว่าเพียงแค่ 2 นาที สเปอร์ส ก็ตามตีไข่แตกได้ทันเมื่อแผงหลังเจ้าบ้านเคลียร์บอลกันไม่ขาดเมื่อ แฮร์รี่ แม็กไกว์ ขึ้นโขกแต่ไม่พ้นโซนแดงก่อนที่ เอริก ลาเมล่า จะเข้ามาเบียด ลุค ชอว์ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ ขึ้นมาส่งลูกซุกตาข่าย ตีเสมอทันที 1-1

                นาที 7 แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เข้าไปทำฟาวล์ใส่ แฮร์รี่ เคน ก่อนที่จะทะลุช่องให้ ซน ฮึง-มิน ที่เร่งฝีเท้าเข้าบอลก่อน เอริก ไบยี่ และ ลุค ชอว์ ที่ตามมา แล้วยกข้ามหัว ดาบิด เด เคอา เข้าประตูไป “ไก่เดือยทอง” ขึ้นนำ 2-1

                นาที 19 บรูโน่ แฟร์นันด์ส ส่งให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ดึงหลอก แซร์จ ออรเยร์ ก่อนจะหวดชนเสาเข้าประตูพร้อมกับธงล้ำหน้าที่ชูขึ้น

                นาที 27 ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ เล่นกึ่งยิงกึ่งผ่านไปติดเซฟนายด่านประตูผี เด้งไปเข้าทาง เอริ ลาเมล่า ที่เข้ามาชาร์จ แต่ก็โดน เอริก ไบยี่ ตามมาบล็อกทันเวลา

                นาที 29 เอริก ลาเมล่า ชักศอกใส่หน้า อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ก่อนที่เจ้าตัวจะโดนแข้งผีแดงตบหน้า จน แอนโทนี่ เทย์เลอร์ ต้องจ่ายใบแดงให้ มาร์กซิยาล พร้อมกับใบเหลืองสำหรับ เอริก ลาเมล่า ทันทีแบบไม่มีเช็ควีเออาร์ ทำให้สถานการณ์เจ้าบ้านเริ่มเข้าขั้นวิกฤต

                นาที 31 สเปอร์ส หนีห่างออกไปอีกเมื่อ เอริก ไบยี่ จ่ายหน้าประตูให้ แฮร์รี่ เคน เข้าสไลด์ยาวถึง ซน ฮึง-มิน ก่อนจะจ่ายคืนให้ แฮร์รี่ เคน เข้าไปแปสวย ๆ “ไก่เดือยทอง” ทิ้งห่าง 3-1

                นาที 37 ทีมเยือนยังไม่ยอมลดฟอร์มลง คราวนี้ มุสซ่า ซิสโซโก้ จ่ายยาวให้ แซร์จ ออริเยร์ หลุดขึ้นไปเปิดลอดขา แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ได้ ซน ฮึง-มิน เข้าชาร์จที่เสาแรก เรียกประตูที่ 4 ให้กับต้นสังกัด ทำเอาเจ้าตัวขึ้นนำดาวซัลโว่ร่วมกับ โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิน ที่ทำผลงาน 6 ตุงเท่ากันในฤดูกาลนี้

                ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีทีมไหนบวกสกอร์เพิ่มได้อีก แต่ก็จบครึ่งแรกด้วยความโหดของ สเปอร์ส ที่กด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไว้ที่ 4-1

                ต่อกันครึ่งหลังนาที 51 เจ้าบ้านต้องมาเสียประตูที่ 5 ไปอีกเมื่อ ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก แทงยาวให้ แซร์จ ออริเยร์ หลุดเข้าไปทำนายด่านมือหนึ่งของพวกเขาหลงทางก่อนจะตวัดเข้าประตูไป “ไก่เดือยทอง” ทิ้งแบบไม่เห็นฝุ่น 5-1

                ยิ่งเล่นสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายทำให้นาที 67 โซลชา ตัดสินใจส่ง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ลงไปแทน เมสัน กรีนวู้ด

                นาที 72 แฮร์รี่ เคน หลุดเข้ากรอบได้ก่อนจะซัดเลียดเสา แต่คราวนี้ ดาบิด เด เคอา ไม่ยอมให้ผ่านมือไปได้อีก

                นาที 79 ปอล ป๊อกบา เข้าสไลด์เสียบใส่ เบน เดวิส ทำให้ “ปีศาจแดง” ต้องเสียจุดโทษอีกครั้ง และก็เป็น แฮร์รี่ เคน ที่ส่งลูกเข้าประตูไป สเปอร์ส นำแบบกู่ไม่กลับ 6-1                 จบเกม สเปอร์ส เป็นฝ่ายไล่ยำ แมนฯ ยูไนเต็ด เละเทะคาบ้าน 6-1 ทำเจ้าถิ่นค้างอยู่อันดับ 16 ส่วน “ไก่เดือยทอง” ขยับไปอยู่อันดับ 5 ด้วยผลงาน 7 แต้ม