ระเบิดศึก “แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้” โอเล่ กุนนาร์ โซลชา นำทัพ “ปีศาจแดง” เข้าหยุดสถิติชนะติดต่อกันทุกรายการ 21 นัดซ้อนของ “เรือใบสีฟ้า” ด้วยสกอร์ 2-0 เก็บสามแต้มสำคัญเอาไปแย่งตำแหน่งรองจ่าฝูงจาก “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ ทำให้ตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพียงแค่ 11 คะแนน ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา
ศึกใหญ่แห่งเมืองแมนเชสเตอร์ในลีกสูงสุดของเมืองผู้ดี เป็นการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจ้าบ้านจ่าฝูงที่เปิดถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของอริร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 3 ด้วยผลงานการพาทีมชนะติดต่อกัน 21 นัดซ้อนของกุนซือสมองเพชร โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า นัดนี้การจัดทัพไม่มีปัญหาอะไรยังคงใช้ ริยาด มาห์เรซ, กาเบรียล เชซุส และ ราฮีม สเตอร์ลิง ประจำการแนวรุกตามเดิม เพิ่ม เควิน เดอ บรอยน์ ช่วยปั้นเกมกับ อิลคาย กุนโดกัน
ทางด้าน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือ “ปีศาจแดง” ที่จบเกมแบบไร้สกอร์มาแล้ว 3 นัดซ้อนทุกรายการก็ได้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กลับมาเปิดเกมให้ พร้อมกับสามประสานแนวรุกขาประจำอย่าง แดเนี่ยล เจมส์, บรูโน่ แฟร์นันด์ส และมาร์คัส แรชฟอร์ด
เขี่ยบอลได้แค่ 34 วินาที กาเบรียล เชซุส ก็จัดฟาวล์ด้วยการเข้าไปเตะข้างหลัง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ในกรอบเขตโทษ ทำให้ทีมเยือนได้จุดโทษทันทีแบบวีเออาร์ไม่ต้อง และเป็น บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่เข้ามาตะบันติดปลายมือ เอแดร์ซอน เข้าไปในนาทีที่ 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกนำก่อน 1-0
นาที 4 เจ้าบ้านเกือบเสียประตูที่สองจากการเข้าแย่งบอลของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ส่งให้ ลุค ชอว์ เข้าหวดในระยะต่ำกว่า 6 หลา เข้าใส่ตัวนายด่าน “เรือใบสีฟ้า” เต็ม ๆ
นาที 16 เดอ บรอยน์ พลาดท่าโดน เฟร็ด เข้าตัดบอลไปแทงให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ซัดนอกกรอบ ยังดีที่ เอแดร์ซอน ยังกันไว้ได้
นาที 23 ทางฝั่งเจ้าถิ่นได้โอกาสสวนคืนบ้างโดย ราฮีม สเตอร์ลิง ขึ้นจี้ในกรอบแม้จะโดนขวางล้มแต่ก็ตาม นาทีต่อมา โอเล็กซานเดร์ ซินเชนโก้ ปรี่เข้ามาตะบันซ้ายนอกรอบ แต่ก็โดน ดีน เฮนเดอร์สัน ปัดทิ้งแบบไม่ไยดี
นาที 38 อิลคาย กุลโดกัน เป็นฝ่ายได้บอลบ้าง คราวนี้เข้าไปหาจังหวะซัดเบาเข้ามือนายด่ายประตูผีได้ไม่ยาก
นาที 43 เจ้าบ้านมาได้ฟรีคิกระยะไม่ถึง 30 หลาหน้ากรอบกันบ้าง โดยมี เควิน เดอ บรอยน์ เข้ามาปั่นข้ามกำแพงก่อนที่ เฮนเดอร์สัน จะเขย่งเอาปลายมือปัดออกหลัง
ช่วงทดเจ็บนาที 45+1 ลูกทีมของ เป็ป หวิดตีไข่แตกได้สำเร็จเมื่อ ริยาด มาห์เรซ หลุดขึ้นขวาแล้วอัดสุดแรง แม้ว่า กาเบรียล เชซุส จะเข้าสไลด์ช่วยเพื่อนแต่ก็ทำได้แค่ส่งบอลถากเสาออกไป
จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตาม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1
ต่อกันครึ่งหลังนาที 48 แมนฯ ซิตี้ หวิดตีเสมอได้อีกหนเมื่อ กาเบรียล เชซุส แปะคืนให้ โรดรี้ ปั่นพุ่งชนสามเหลี่ยมออกหลังอย่างน่าเสียดาย
หลังจากพยายามจะตีไข่ “ปีศาจแดง” ให้แตกอยู่หลายหน กลายเป็นว่า “เรือใบสีฟ้า” ต้องมาพลาดท่าอีกครั้งเมื่อ ดีน เฮนเดอร์สัน ออกบอลให้ ลุค ชอว์ ไปเล่นชิ่งกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ก่อนจะลั่นไกฝ่าแข้งเจ้าบ้านเบียดเสาเข้าไป ทำเอา เอแดร์ ซอน ได้แต่มองเท่านั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำห่าง 2-0
นาที 59 แข้ง “ผีแดง” สวนคืนอีกหนจนหวิดได้ประตูที่สามจากการที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส เข้าเปิดแฉลบหัว ดิอ๊าซ ลอยไปให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ตามมาโฉบติดมือนายด่านเจ้าบ้าน
ช่วงเกมครบชั่วโมง ริยาด มาห์เรซ เก็บลูกเตะมุมมาหวดหลุดกรอบไปนิดเดียว ชวดโอกาสตีไข่แตกให้ต้นสังกัดอย่างน่าเสียดาย
นาที 69 แมนฯ ยูไนเต็ด ชวดโอกาสบวกสกอร์อีกหนหลังจาก แม็คโทมิเน่ย์ เสียหลักลงไปกองหน้ากรอบปล่อยบอลหลุดไปให้ มาร์กซิยาล เข้าไปใส่เดี่ยวติดมือจอมเหนียวของแมนฯ ซิตี้ อย่างน่าเสียดาย
นาที 75 “เรือใบสีฟ้า” พลาดโอกาสทองอีกหนจากจังหวะจ่ายเลียดให้ ฟิล โฟเด้น ของ เควิน เดอ บรอยน์ ก่อนที่จะโดนหวดหลุดกรอบออกไปแบบไม่ต้องลุ้น
นาที 85 เควิน เดอ บรอยน์ ได้จังหวะตักเข้าหัว วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ชงให้ ราฮีม สเตอร์ลิง โขกซ้ำ แต่ก็หลุดกรอบออกไปอีกหน
จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2
เลขบัญชี | ชื่อผู้รับ |
4331635857 | SCB บริพัตร เจิมพันนิตย์. |
ฟรีค่าทำเนียมทุกธนาคาร !
ฝากขั้นต่ำ 50 บาท ขึ้นไปเท่านั้น
ห้ามโอนเงินในช่วงเวลา 23:00-23:59 น.