มาดริด เจ็บระนาว เฝ้ารังสู้ นาโปลี เกมแชมเปี้ยนส์ลีก

                เรอัล มาดริด ที่มีปัญหาแข้งเจ็บแบบยกกระบุงต้องอาศัยความได้เปรียบจากการเป็นเจ้าถิ่นรีดฟอร์มสู้ นาโปลี ที่กำลังคึกคักภายใต้การกุมบังเหียนของนายใหม่ พร้อมฟาดแข้งแย่งตั๋วกันในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี นัดที่ 5 คืนวันอังคารที่ 28 พฤศจิกายนนี้ เวลา 03.00 น. ณ สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว

                “ราชันชุดขาว” ของกุนซือคาร์โล อันเชลอตติ  ยังคงร้อนแรง ไม่แพ้ใครมา 11 นัดติดต่อกันในทุกรายการ (ชนะ 9 เสมอ 2) ครองจ่าฝูงศึกลาลีกา สเปน ส่วนผลงานในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทีมราชันชุดขาวการันตีเข้ารอบแน่นอนแล้ว หลังจากชนะมา 4 นัดรวด เก็บ 12 คะแนนเต็ม

ส่วนขุมกำลังกลับมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเพียบ ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตู ซึ่ง ธิโบต์ กูร์กตัวส์ และ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า เดี้ยงทั้งคู่ ทำให้ต้องใช้นายทวารมือ 3 อย่าง อันเดรย์ ลูนิน ลงเฝ้าเสา นอกจากนี้ เอแดร์ มิลิเตา, ออเรเลียง ชูอาเมนี่, อาร์ดา กูแลร์, เอดูอาร์โด คามาวิงก้า, วินิซิอุส จูเนียร์ ก็อยู่ระหว่างพักรักษาอาการบาดเจ็บเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ยังมีแกนหลักให้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น อันโตนิโอ รูดิเกอร์, เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้, โทนี่ โครส, ลูก้า โมดริช, โรดรีโก้ และ จู๊ด เบลลิงแฮม มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษวัย 20 ปี ซึ่งถูกยกให้เป็นดาวรุ่งที่ร้อนแรงที่สุดของวงการลูกหนังโลกในเวลานี้

นาโปลี ที่มาพร้อมดีกรีแชมป์เซเรียอาฤดูกาลที่แล้ว ฟอร์มยังไม่สม่ำเสมอเท่าที่ควร โดยรั้งอันดับ 4 ของศึกเซเรียอา ตามหลังจ่าฝูง อินเตอร์ มิลาน ห่างถึง 8 แต้ม จนสโมสรตัดสินใจไล่ รูดี้ การ์เซีย พ้นเก้าอี้และแต่งตั้ง วอลเตอร์ มาซซารี่ มานั่งแท่นกุนซือใหม่ เมื่อช่วงกลางเดือนพ.ย. และประเดิมคุมทีมนัดแรก บุกไปเฉือน อตาลันต้า 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ส่วนสถานการณ์ในรายการนี้ นาโปลี มีอยู่ 7 แต้มจาก 4 นัด รั้งอันดับ 2 ของกลุ่ม และถ้าหากบุกไปเก็บ 3 แต้มกลับบ้านได้ในเกมนี้ พวกเขาก็จะจองตั๋วเข้ารอบต่อไปทันที ซึ่งความพร้อมของทีมจะขาดเพียง เยสเปอร์ ลินด์สตรอม และ มาริโอ รุย ที่บาดเจ็บ ส่วนผู้เล่นที่เหลืออยู่กันครบ

เกมรับนำโดยคู่เซนเตอร์ นาทาน กับ อาเมียร์ ราห์มานี่ แผงมิดฟิลด์ใช้ อองเดร-ฟรองค์ แซมโบ อองกีสซ่า, สตานิสลาฟ โลบอตก้า และ ปิโอเตอร์ ซิลินสกี้ ช่วยกันคุมเกมแดนกลาง ขณะที่เกมรุกฝากความหวังไว้ที่  มัตเตโอ โปลิตาโน่ กับ ควิชา ควารัตสเคเลีย ทำเกมริมเส้น พร้อมด้วยหัวหอกตัวเป้า วิคเตอร์ โอซิมเฮน