แมนยูหวิดดับไบร์ทตันทำหืดจับก่อนคว้าชัย

                “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หวิดดับ โดน “นกนางนวล” ไบร์ทตัน กดดันหนักจนไล่เจ๊าในนาที 90+5 แต่ว่าโชคเข้าข้างมาได้จุดโทษนาที 90+10 เกมนี้มีคานกับเสาช่วย เด เคอา เซฟเอาไว้ได้ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา

                เพื่อสามแต้มแรกของฤดูกาล โอเล่ กุนนาร์ โซลชา นายใหญ่ “ปีศาจแดง” ก็ปรับทัพใหม่รื้อชุดพ่าย “ดิอีเกิ้ล” คริสตัล พาเลซ โดยให้ อารอน วาน-บิสซาก้า ไปแทนที่ ทิโมธี โฟซู-เมนซาห์ ในตำแหน่งแบ็กขวา ตรงกลางพัก สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ แล้วให้ เนมานย่า มาติช ไปปั้นเกมแทน ส่วนแนวรุกวางใจ เมสัน กรีนวู้ด ออกซัดแทน แดน เจมส์

                ทางฝั่งเจ้าบ้านไบร์ทตัน หลังจากอัด “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล 3-0 ก็ทำให้ อีฟส์ บิสซูม่า ติดแบนไป ต้องส่ง อดัม ลัลลาน่า มาโชว์ฟอร์มกันบ้าง

                เปิดรัง เอเม็กซ์ สเตเดี้ยมมาถึงนาที 9 เจ้าบ้านก็เล่นเสียวใส่ก่อนเมื่อ ทรอสซาร์ จับแล้วลั่นไกหน้ากรอบเขตโทษไปชนเสาประตูผีเข้าให้ โดยที่ เด เคอา ไม่ได้สัมผัสบอลเลย

                นาที 15 กรีนวู้ด ฉกบอลจากแข้งเจ้าถิ่นเข้าไปในเขตโทษก่อนตวัดซ้ายผ่านปากประตูไป ชวดทำประตูให้ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างน่าเสียดาย

                นาที 30 หลังจากที่ ทรอสซาร์ เรียดถากเสาทำเอานายด่านมือหนึ่งของทีมเยือนต้องโวยใส่เพื่อนร่วมทีมไปแล้ว คราวนี้ อดัม เว็บสเตอร์ ขึ้นโขกย้อยใส่ประตูบ้าง แต่ว่าคานประตูผีก็ยังทำหน้าที่เซฟไว้ได้อีก

                นาที 32 ฝั่งทีมเยือนเริ่มครองบอลได้เข้ารูปเข้ารอยจน มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้จังหวะไหลออกซ้ายให้ กรีนวู้ด สอดลั่นไกพังประตูไปได้ แต่ว่าก็โดนริบประตูไปเพราะไลน์แมนฟันธง แรชฟอร์ด ล้ำหน้าก่อนแล้ว

                นาที 38 ทาริค แลมพ์ตีย์ โดน บรูโน่ แฟร์นันด์ส ทำล้มในเขตโทษก่อนจะให้ นีล โมเปย์ มายิงเป้าและก็ไม่พลาดเจ้าบ้านนำไปก่อน 1-0

                เพียงแค่ 5 นาที ทีมเยือนก็ตีเสมอสำเร็จเมื่อ เนมานย่า มาติช ลากสุดเส้นแล้วหักคืนให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ แต่ ลูอิส ดังค์ ที่เข้ามาสกัดทำพลาดเข้าประตูตัวเองไป

                จบครึ่งแรก ไบร์ทตัน เสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1

                ต่อครึ่งหลังได้แค่ 2 นาที ปอล ป็อกบา ก็ปะทะกับ คอเนอร์ คอนนอลลี่ ในเขตโทษจนล้ม แต่ก็ไม่ถือเป็นจุดโทษหลัง VAR ชี้ว่าแข้งเจ้าถิ่นพุ่งลงไปเอง

                นาที 52 เมสัน กรีน วู้ด หลุดเข้าซ้ายจ่ายยัดให้ มาคัส แรชฟอร์ด ซัดเน้น ๆ เข้าประตูไป แต่ VAR ก็ริบประตูไปอีกเพราะกองหน้าทีมชาติอังกฤษล้ำหน้าไปก่อนอีกตามเคย

                นาที 55 ประตูที่สองของ “ปีศาจแดง” ก็มาเสียทีเมื่อ มาคัส แรชฟอร์ด ลากหลบ เบน ไวท์ ก่อนจะซัดโล่งแฉลบแนวรับ “นกนางนวล” เข้าประตูไป ขึ้นนำ 2-1

                เกมเดินมาครบชั่วโมงเจ้าบ้านหวิดตีเสมอได้สำเร็จเมื่ สตอรี่ มาร์ช หลุดซ้ายใส่โล่ง ๆ ชนเสาออกไปอย่างผิดคาด

                นาที 76 เลอันโดร ทรอสซาร์ ปรี่เข้ามาหวดเต็มข้อแต่บอลก็ยังไปติดเซฟคานประตูผีอีกตามเคย

                ช่วงทดเจ็บนาที 90+5 ไบร์ทตัน ตีเสมอ 2-2 จากการขึ้นโขกของ สตอรี่ มาร์ช เข้าเสาไกลแบบสวย ๆ

                แต่แทนที่จะได้จบเกมด้วยการแบ่งแต้ม ฝันของเจ้าบ้านก็สลายเมื่อนาที 90+10 แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ขึ้นโขกไปโดนมือ นีล โมเปย์ ในจุดโทษ แม้ว่าเชิ้ตดำจะเป่าหมดเวลา แต่ VAR ชี้ให้เป็นจุดโทษ และก็เป็น แฟร์นันด์ส ที่ตะบันไม่พลาดเป้า

                จบเกม ไบร์ทตัน พ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-3