เชลซี ไม่ขยับ แมนยู ไม่ได้เกิดในนัดแบ่งแต้ม พรีเมียร์ลีก

                “สิงห์บลูส์” เชลซี ของ โธมัส ทูเคิ่ล ยังคงไร้พ่ายแต่สุดท้ายก็ทำได้แค่เปิดรังแบ่งแต้มกันไปกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยังไม่เคยออกไปแพ้ใครแม้แต่นัดเดียว เกมนี้เจ้าบ้านยังรั้งอันดับ 5 เอาไว้ ส่วน “ปีศาจแดง” ที่เป็นรองจ่าฝูงก็ยังคงตามหลัง “เรือใบสีฟ้า” ที่ห่างกันมากถึง 12 แต้ม ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

                ด้วยผลงานการคุมทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” มาแล้ว 8 นัด ของ โธมัส ทูเคิ่ล ก็ยังคงสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น เกมนี้มีเพียงแค่ 3 ตำแหน่งเท่านั้นที่เปลี่ยนไป โดยให้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เบน ชิลเวลล์ และฮาคิม ซิเย็ค ช่วยกันปั้นเกมมี โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ประจำการหน้าเป้า แล้วเอา ติโม แวร์เนอร์ ติดสำรองไว้ก่อน

                ทางฝั่ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือ “ปีศาจแดง” ซีซั่นนี้ยังไม่มีทีมไหนทำให้พวกเขากลับถิ่นมือเปล่าได้แม้แต่นัดเดียว แน่นอนว่าเกมนี้ โซลชา เลือกใช้ชุดที่ดีที่สุดเช่นเคยโดยมี มาร์คัส แรชฟอร์ค คอยค้ำหน้า แล้วให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส, เมสัน กรีนวู้ด และแดเนี่ยล เจมส์ ช่วยกันทำเกมสนับสนุน

                กว่าคู่นี้จะทักทายกันได้ก็ปาเข้าไปถึงนาที 14 ในจังหวะที่ แม็คโทมิเน่ย์ โดน เมสัน เมาน์ท เข้าทำฟาวล์นอกกรอบ แล้วให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ปั่นฟรีคิกสุดแรงทำเอา เอดูอาร์ เมนดี้ ต้องรีบชกให้พ้นประตู

                นาทีต่อมาเจ้าบ้านได้ลุ้นบ้างโดย ฮาคิม ซิเย็ค ซัดนอกกรอบแต่ว่านายด่านประตูผีก็ยังไม่ยอมให้พังประตู

                นาที 22 เมสัน เมาน์ท ได้จังหวะไหลให้ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย พาบอลขึ้นไปเล่นชิ่งกับ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ก่อนที่ โอดอย จะวอลเลย์แบบไม่จับถากใส่เสาสองออกหลังไปให้ได้เสียว

                สิบนาทีต่อมา ดาบิด เด เคอา พลาดท่าส่งบอลให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่หน้ากรอบ โชคดีที่อีกฝ่ายใส่สุดแรงจนบอลเหินคานไปไกล

                นาที 36 คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย เปิดเข้ากรอบ 6 หลาให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ขึ้นโขกแต่ไม่โดนบอล ชวดทำประตูนำอย่างน่าเสียดาย

                ช่วงท้ายครึ่งแรก แม้ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไล่บี้แค่ไหนแต่ก็ทำอะไรแนวรับ เชลซี ไม่ได้ ต้องจบกันไปโดยที่เสมอกัน 0-0

                ต่อกันในครึ่งหลังทางฝั่ง ทูเคิ่ล ได้มีการถอด คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ออกไปแล้วให้ รีซ เจมส์ ลงมาแทน

                นาที 49 เบน ชิลเวลล์ ปาดเข้าเสาแรกผ่าน ชิรูดส์ ไปเข้าทาง ฮาคิม ซิเย็ค ที่เข้ามาซัดต่อ แต่ว่านายด่านมือหนึ่งของ โซลชา ก็ยังใช้มือเดียวปัดออกไปได้ แม้ รีซ เจมส์ จะตามซ้ำแต่ก็ไม่พ้นบล็อกของ ลุค ชอว์ เช่นกัน

                เกมเดินมาครบหนึ่งชั่วโมง เมสัน กรีนวู้ด ฝากลูกไว้ที่ แดเนี่ยล เจมส์ ก่อนจะขึ้นไปหวดซ้ายที่หน้าหัวกะโหลกเฉียดสามเหลี่ยมออกไปให้ได้ลุ้น

                นาทีต่อมา ลุค ชอว์ เล่นปาดให้ แอรอน วาน-บิสซาก้า หักให้ สกอตต์ แม็คโทมิเน่ย์ ตามมาซัดไปติดเซฟของ เมนดี้ ที่บินมาปัดทันเวลา

                นาที 63 เชลซี ได้ทีสวนกลับบ้างโดย เมสัน เมาน์ท ลากยาวครึ่งสนามก่อนจะล็อกหนี แม็คโทมิเน่ย์ แต่ก็หวดไม่พ้นแข้งทีมเยือน

                นาที 66 ทูเคิ่ล ใช้โควตาเปลี่ยนตัวอีกหนโดยส่ง คริสเตียน พูลิซิช ไปแก้เกมแทน โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

                สองนาทีต่อมา ลุค ชอว์ ได้ทีจ่ายเข้ากลางให้ เฟร็ด ซัดจากระยะไม่ถึง 20 หลา โค้งหลุดกรอบไปนิดเดียว

                นาที 74 ฮาคิม ซิเย็ค ไหลให้ มัตเตโอ โควาซิช ปั่นขวาไปติดมือของ ดาบิด เด เคอา

                นาที 78 ทูเคิ่ล เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนสุดท้าย คราวนี้ให้ ติโม แวร์เนอร์ ไปแทน ฮาคิม ซิเย็ค ก่อนที่ โซลชา จะเอาบ้างโดยการเรียก เมสัน กรีนวู้ด กลับไปแล้วให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ทำงานแทนในนาทีต่อมา

                อย่างไรก็ตามแม้ว่าทั้งคู่จะพยายามแก้เกมแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรกันได้จนกระทั่งหมดเวลาแข่งขัน

                จบเกม เชลซี เสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0