ลิเวอร์พูลฟอร์มเดือดไล่ทุบแมนยูทิ้งห่างแมนซิตี้ 16 แต้ม

                 เดือดกันเป็นหนที่สองของอริตลอดการ ลิเวอร์พูล – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังเปิด แอนฟิลด์ ไล่ต้อนเอาชัย 2-0 เก็บไปอีกสามแต้ม ยังคงค้างอยู่หัวตารางทิ้งห่างให้แชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่หลัง 16 คะแนน ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา

                เปิดฉากพบกันอีกครั้งภายในฤดูกาลเดียวได้แค่ 8 นาที เนมานย่า มาติช ก็เก็บใบเหลืองไปก่อนเป็นคนแรกจากการยกเท้าสูงใส่ ไวจ์นัลดุม

                นาที 14 เหล่า “เดอะ ค็อป” เฮกันลั่นสนามเมื่อ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดมุมขึ้นมาให้ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ แทรกขึ้นเต็มเหน่งติดก้นตาข่ายเล่นเอา เด เคอา ถึงกับเหว่อ

                สิบนาทีต่อมา ฟีร์มีโน่ ได้โอกาสปาดเลียดเข้ากลางให้ มาเน่ เหนี่ยวแต่โดน ลุค ชอว์ มาสกัดออกหลังกลายเป็นลูกเตะมุม

                ทันทีที่ฝั่ง ลิเวอร์พูล เปิดมุมเข้ามา โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็วอลเลย์จนลอยโด่ง ขณะที่นายด่านมือหนึ่งของ โซลชา พยายามจะจับบอลไว้กลับโดน ฟาน ไดค์ เทกตัวเบียด ทำให้แข้งผีแดงร้องฟาวล์แต่เปาไม่เป่าให้ ก่อนที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เก็บตกได้แล้วปั่นเข้าเสาสอง เล่นเอาทีมเยือนไม่พอใจหนักจน เคร็ก พอว์สัน ต้องกลับไปเช็ค VAR ถึงจะกลับมาริบประตูคืนจากเจ้าบ้าน เนื่องจาก ฟาน ไดค์ เข้าไปกระแทกใส่ เด เคอา

                นาที 35 “เดอะ ค็อปป์” ต้องเฮเก้อ เมื่อ แชมเบอร์เลน แทงบอลให้ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม แปเข้าเสาไกล ทว่าโดนเป่าล้ำหน้าเสียก่อน

                นาที 41 ทัพปีศาจแดงหวิดได้ประตูจากจังหวะครอสบอลของ มาร์กซิยาล มาให้ แอรอน วาน-บิสซาก้า ถีบลูกไปหาเสาไกล แต่ลูกก็เลยเสาไปอย่างน่าเสียดาย

                นาที 44 ทีมเยือนยังคงเกมรุกอย่างต่อเนื่อง ในจังหวะนี้ อันเดรส เปไรร่า ขึ้นมาซัดขวานอกกรอบไปติดเซฟของ อลีสซง เต็มใบ

                จบเกมครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0

                ต่อกันในช่วงครึ่งหลัง นาที 47 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกือบเสียประตูอีกหนเมื่อ มาเน่ ต่อบอลให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ป้ายเข้ากลางให้บังโมซัดเต็มข้อ แต่ก็หลุดกรอบออไป

                นาที 49 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน อัดเข้ามุมจากระยะ 20 หลา จนนายด่านประตูผีต้องบินมาใช้ปลายนิ้วสะกิดให้บอลพ้นประตูออกไป

                เจ้าบ้านเริ่มกดดันลูกทีมของ โซลชา แบบแทบไม่ให้ได้พักหายใจจนถึงนาที 52 ฟีร์มีโน่ ส่งบอลให้ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ซัดนอกกรอบไปติดเซฟ ดาบิด เด เคอา อีกหน

                นาที 59 แมนยูเสียโอกาสตีเสมออย่างน่าเสียดายเมื่อ มาร์กซิยาล เล่นหนึ่งสองกับ เปเรยร่า ก่อนจะเจ้าตัวจะหลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ อลีสซง แล้วเผลออัดเต็มแรงจนบอลเหินคานไปนิดเดียว

                นาที 75 น้าลูกอมตัดสินใจใช้โควตาสับแข้ง โดยเรียกตัว อันเดรส เปไรร่า กับ แบรนด้อน วิลเลี่ยมส์ มาพักแล้วส่ง ฆวน มาต้า กับ เมสัน กรีนวู้ด ลงไปลุยต่อ

                ถึงอย่างนั้นในช่วงทดเจ็บนาที 90+3 ลิเวอร์พูล ก็จัดการตอกฝาโลงผีแดงด้วยจังหวะสวนเร็วของ อลีสซง ซัดยาวให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พาบอลไปซัดทะลุมือ ดาบิด เด เคอา                 จบเกม ลิเวอร์พูล ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0 ตอนนี้พวกเขามีอยู่ 64 คะแนน และยังคงสถิติไร้พ่ายไว้ ทิ้งให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตามหลังอยู่ 16 แต้ม