“หงส์แดง” แรงไม่หยุด ปล่อย “ปืนโต” ลั่นโป้งก่อนไล่ทวงประตูแค้น 3-1 พร้อมกับเป็นการประเดิมประตูของ ดิโอโก้ โชต้า ในชุดลิเวอร์พูล เก็บสถิติเฮรวด 5 นัดทุกรายการ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา
เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่เลือดด๊อยท์ซช่วงนี้ปลุกขวัญลูกทีมได้ทีจนล่าสุดไล่ถลุง ลินคอล์น ซิตี้ แบบไม่มีไว้หน้าไป 7-2 ในศึก คาราบาว คัพ ชนะติดต่อกัน 4 นัดต่อเนื่องจากทุกรายการ
ทางฝั่ง มิเกล อาร์เตต้า กุนซือ “ปืนใหญ่” ล่าสุดพาทีมลั่นโป้งใส่ถิ่น “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” 2-0 ผ่านเข้ารอบต่อไปในศึก คาราบาว คัพ หากนัดนี้พวกเขาเก็บ 3 แต้มได้ จะเป็นการคว้าชัย 7 นัดซ้อนจากทุกศึก
เปิดถิ่นแอนฟิลด์ได้แค่ 2 นาที เจ้าบ้านเกือบได้เสียท่าจากจังหวะที่ ซาดิโอ มาเน่ ชักศอกใส่ คีแรน เทียร์นี่ย์ จนร่วงไปกองกับพื้น ยังดีที่ เคร็ก พอว์สัน ควักให้แค่ใบเหลือง
นาที 10 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาศัยจังหวะที่แนวรับอาร์เซน่อลสกัดลูกมุมไม่ดีรีบฉกไปครอสให้ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ โขกชงให้ ฟีร์มีโน่ อีกต่อ แต่ว่า ดาวิด ลุยซ์ สอดขึ้นมาโขกเคลียร์ได้ก่อน
นาที 15 นาบี เกอิต้า เก็บบอลมาดีดหา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ก่อนจะเปิดไปที่ ซาดิโอ มาเน่ ขึ้นซัดขวาแบบจ่อ ๆ แต่ก็ไม่พ้นเซฟของ แบร์นด์ เลโน่ อยู่ดี
นาที 20 ดาวิด ลุยซ์ ขึ้นโหม่งลูกมุมทิ้งไปทาง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ที่เข้ามาซัดตามน้ำที่หน้าหัวกะโหลกแฉลบใส่ เอคตอร์ เบเยริน ไปชนคานอย่างน่าเสียดาย
นาที 25 ทีมเยือนออกนำไปก่อนจากการสวนกลับของ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ที่แทงออกซ้ายให้ เมตแลนด์-ไนล์ส เปิดเข้าเขตโทษ ทว่า แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ดันไปสกัดเข้าทาง ลากาแซตต์ ที่หมุนตัวตวัดข้าม อลีสซง เบ็คเกอร์ ซุกตาข่ายไป อาร์เซน่อล นำ 1-0
เพียงแค่ 2 นาทีแชมป์เก่าก็ตามทันเมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เข้ามากระชากต่อหน้า คีแรน เทียร์นี่ย์ หลุดไปถึงเขตโทษแล้วกดซ้ายกระแทกเซฟของ แบร์นด์ เลโน่ แต่ก็โดนปีกเซเนกัลเข้ามาชาร์จเข้าไปจนได้
นาที 33 นาบี เกอิต้า ขอปล่อยของบ้างด้วยการขึ้นเติมฝั่งขวาก่อนหาช่องซัดมุมแคบ แต่ถูกนายด่าน “ปืนใหญ่” ชกกลับออกมาแบบไม่ไยดี
นาทีถัดมา ลิเวอร์พูล ก็กลายเป็นฝ่ายขึ้นนำจากการขึ้นขวาของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่จ่ายย้อนให้ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ตั้งยิงในเขตโทษแฉลบใส่เสาไกล โชคดีได้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เข้ามาซัดซุกตาข่ายไป
จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำ อาร์เซน่อล 2-1
ต่อครึ่งหลังได้แค่ 2 นาที เจ้าบ้านหวิดขุดสกอร์เพิ่มจากจังหวะ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ครอสออกซ้ายให้ ซาดิโอ มาเน่ ดึงหนี ดาวิด ลุยซ์ แล้วหวดเหินคานออกไปให้ได้ลุ้น
นาที 59 ทีมเยือนพลาดโอกาสอีกครั้งเมื่อ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ แหกแนวรับ ลิเวอร์พูล เข้ามาได้ก่อนจะซัดไปเต็มข้อ แต่นายด่านมือหนึ่งของ “หงส์แดง” ก็ไม่ยอมให้เข้าประตู
นาที 61 เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ได้มีโอกาสลุ้นกับเขาบ้างด้วยการดันขึ้นหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่จะอัดเต็มแรงแต่บอลส่ายไปโดนแขน แบร์นด์ เลโน่ เสียก่อน
นาที 64 อาร์เซน่อล รีบสวนกลับแทบจะทันทีโดย ดานี่ เซบายอส แทงเข้ากลางให้ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ หลุดเข้าไปแต่งช่องยิง แต่ก็เอาชนะความเหนียวของ อลีสซง เบ็คเกอร์ ไม่ได้
ในจังหวะต่อเนื่อง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ แทงแฉลบใส่แนวรับ “ปืนใหญ่” ไหลใส่ ซาดิโอ มาเน่ ที่เข้ามาตวัดตามน้ำเฉี่ยวเสาทำเอาใจหายเล่น
ช่วง 15 นาทีสุดท้าย เจ้าบ้านยังคงกดดันอย่างหนัก คราวนี้แข้งเซเนกัลป้ายออกขวาให้ดาวยิงแซมบ้าซัดแฉลบใส่ คีแรน เทียร์นี่ย์ เบียดเสาออกไปบ้า
นาที 80 บังโม ที่พาบอลแหวกเข้าไปแทงให้ ดิโอโก้ โชต้า แต่ว่าเจ้าตัวกลับซัดติดข้างตาข่ายแทน
นาที 88 ลิเวอร์พูล ก็เรียกประตูเพิ่มอีกเมื่อ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ตักเข้าหัว ดาวิด ลุยซ์ เด้งไปเข้าทาง ดิโอโก้ โชต้า เข้ามาซัดเรียดเบียดเสาเข้าไป
จบเกม ลิเวอร์พูล ชนะ อาร์เซน่อล 3-1 เก็บไปอีก 3 แต้ม ขึ้นรั้งรองจ่าฝูงร่วมกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่มีอยู่ 9 คะแนน แต่ประตูได้เสียของ “จิ้งจอกสยาม” นั้นเหนือกว่า
เลขบัญชี | ชื่อผู้รับ |
4331635857 | SCB บริพัตร เจิมพันนิตย์. |
ฟรีค่าทำเนียมทุกธนาคาร !
ฝากขั้นต่ำ 50 บาท ขึ้นไปเท่านั้น
ห้ามโอนเงินในช่วงเวลา 23:00-23:59 น.